About Us

กลุ่มบริษัทน้ำตาลตะวันออก เริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2502 ในนาม บริษัท น้ำตาลตะวันออก จำกัด ได้ตั้งโรงงานน้ำตาลตะวันออก ที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีกำลังการหีบอ้อย 500 ตันอ้อย/วัน ได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบบริหารจัดการและประสิทธิภาพเครื่องจักรให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง จนสามารถหีบอ้อยได้สูงถึง 12,000 ตันอ้อยต่อวัน

 

ในพ.ศ.2537 บริษัทฯ จึงย้ายโรงงานมาตั้งที่ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เพื่อรองรับการพัฒนาและการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพของบริษัทฯ ในปี 2547 บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจการโรงงานน้ำตาล ภายใต้ชื่อ บริษัท น้ำตาลและอ้อยตะวันออกจำกัด และเปลี่ยนชื่อโรงงานเป็น “โรงงานน้ำตาลและอ้อยตะวันออก” ปัจจุบันเป็นโรงงานที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มีกำลังผลิตตามใบอนุญาต 18,000 ตันอ้อยต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่ปลูกอ้อยกว่า 240,000 ไร่ และมีแผนที่จะขยายกำลังผลิตเพิ่มเติมอีก 6,000 ตันอ้อยต่อวัน ภายใน 5 ปี

 

บริษัทฯมีวิวัฒนาการระบบบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องตลอดมา และได้รับรองมาตรฐานทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ตลอดจนนำชาวไร่อ้อยเข้าสู่ระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO ได้เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย

 

บริษัทฯได้ขานรับนโยบายของภาครัฐในเรื่องการให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในเรื่องของการหาพลังงานทดแทนจากธรรมชาติ โดยนำธุรกิจน้ำตาลเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนที่ใช้ประโยชน์ได้จากในประเทศไทย ช่วยลดการนำเข้าสินค้าประเภทพลังงาน โดยดำเนินการสร้างโรงงานเอทานอล ภายใต้ชื่อบริษัท อีเอส เพาเวอร์ จำกัด มีกำลังผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดดำเนินการในเดือนกันยายน 2551 นี้

 

นอกจากนั้นบริษัทฯยังดำเนินธุรกิจในด้านอื่นๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เช่น บริษัท เกษตรอุตสาหกรรม จำกัด เป็นโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยส่งเสริมผลผลิตให้กับเกษตรกร บริษัท อ้อยตะวันออก จำกัด เป็นบริษัทให้บริการด้านจักรกลการเกษตร สนับสนุน เช่า จัดสร้างอุปกรณ์การเกษตรให้ชาวไร่ และบริษัท อีเอส ไบโอเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เป็นบริษัทผลิตก๊าซมีเทนจากน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ในขบวนการ

 

นอกจากบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจที่มีความเจริญเติบโตก้าวหน้ามาตามลำดับแล้วนั้น บริษัทฯยังยึดแนวปรัชญาที่ คุณเกียรติ วัธนเวคิน ผู้ก่อตั้งบริษัทฯยึดมั่นอยู่เสมอว่า “อยู่ที่ใดที่นั้นจะต้องเจริญ เราต้องเติบโตไปด้วยกัน” ได้ให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือกับชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรท้องถิ่น เพื่อผลักดันความเจริญให้เกิดแก่ท้องถิ่น เช่น มอบที่ดินเพื่อสร้างถนน โรงเรียน สถานีอนามัย เทศบาล เป็นต้น ตลอดจนอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำนุบำรุงศาสนาในท้องถิ่น  โดยเน้นการเข้าร่วมดำเนินการด้วยทั้งกระบวนการคิด ร่วมมือ ลงมือทำ ไม่ใช่ด้วยวิธีบริจาคเงินและสิ่งของเพียงอย่างเดียว แต่ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อสังคมด้วย ได้จัดตั้งมูลนิธิเพื่อดำเนินการโดยเน้นการพัฒนาคน สนับสนุนทางด้านการศึกษาใช้ชื่อ “มูลนิธิเกียรติร่วมมิตรเพื่อการศึกษา”

 

จะเห็นได้ว่าการดำเนินงานอุตสาหกรรมน้ำตาลตลอด 50 ปี ไม่เคยทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่เคยส่งผลกระทบที่ทำให้สังคมในชุมชนนั้นๆ เดือดร้อน ยังได้พัฒนาสังคมรอบโรงงานน้ำตาลฯ ให้เป็นสังคมชุมชนที่เพียบพร้อมไปด้วย โรงเรียน สถานีอนามัย ที่ทำการอบต. และตลาด ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากชุมชนโรงเรียนน้ำตาลตะวันออก ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมากว่า 40 ปี ถึงแม้โรงงานน้ำตาลตะวันออกจะย้ายไปอยู่จังหวัดสระแก้วแล้ว ชุมชนแห่งนี้ก็ยังเป็นชุมชนที่มีความเจริญ  เพราะการวางรากฐานของโรงงานน้ำตาลตะวันออกในอดีต นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังส่งเสริมด้านการศึกษาให้กับพนักงานและชาวไร่อ้อย อาทิเช่น จัดตั้ง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (ก.ศ.น.) ในโรงงานเพื่อได้มีโอกาสเพิ่มเติมความรู้ให้กับพนักงาน, จัดตั้งโครงการ “การเรียน การสอนระบบทวิภาคี ระดับปวส. หลักสูตรเกษตรกรรม สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ สาขางานเทคโนโลยีอ้อย ร่วมกับ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว” สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ เพื่อเพิ่มทักษะชาวไร่และพนักงานของบริษัท โดยออกประกาศนียบัตรร่วมกับวิทยาลัยฯให้ผู้สำเร็จการศึกษาอีกด้วย